การดูแลดวงตา ให้สามารถใช้งานได้นาน

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายมนุษย์ที่ใช้ในการมองเห็น. ดวงตาประกอบด้วยส่วนหลักๆ คือ ก้อนตา (eyeball) และระบบต่างๆ ภายในตาที่ช่วยในการส่งสัญญาณการมองเห็นไปยังสมอง เช่น ม่านตา (eyelid) และเส้นเลือดที่อาจเห็นดวงตาจากด้านข้างของตาและขนตาที่ป้องกันไม่ให้สิ่งของต่างๆ สะเทือนเข้าไปในตา

การมองเห็นเกิดขึ้นเมื่อแสงถูกส่องเข้าสู่ก้อนตาและส่งสัญญาณไปยังสมองผ่านทางระบบประสาททางอ้อม ที่รวบรวมข้อมูลจากเซลล์ที่ตอบสนองต่อแสง (photoreceptor cells) ในเครื่องมือสัญญาณการมองเห็น เช่น เส้นประสาทตาและสมอง

การรักษาดวงตาให้มีสุขภาพดีเมื่อใช้สายตามากเกินไปสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้  hoiana เวียดนาม

  1. พักผ่อนตาอย่างเพียงพอ: ใช้เทคนิค 20-20-20 โดยหยุดพักตาทุก 20 นาทีและมองที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลาประมาณ 20 วินาที เพื่อให้ตาได้พักผ่อนจากการมองที่ใกล้เกินไป.
  2. ปรับแสง: รักษาการมองเห็นในสภาพแสงที่เหมาะสมโดยปรับแสงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น ลดแสงสว่างในห้องที่สุ่มให้เป็นแสงอ่อนๆ เมื่อใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์.
  3. ใช้แว่นตาที่เหมาะสม: ใช้แว่นตาที่ถูกต้องตามคำแนะนำจากแพทย์ตาเพื่อช่วยลดการเหนื่อยของตาที่เกิดขึ้นเมื่อต้องการมองสิ่งของที่อยู่ใกล้หรือในสภาพแสงที่ไม่เหมาะสม.
  4. ปรับแต่งการใช้คอมพิวเตอร์: การปรับแต่งตั้งค่าหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อลดการเหนื่อยของตา เช่น ปรับความสว่างหรือความสีให้เหมาะสมกับสายตา.
  5. ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยในการรักษาสุขภาพทั่วไปและสามารถช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพของตาได้ด้วย เช่น การยืดเวลาการนั่งทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์.
  6. รับประทานอาหารที่เหมาะสม: อาหารที่รวดเร็วที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอสามารถส่งเสริมสุขภาพตาได้ เช่น อาหารที่มีวิตามิน A, C, E, และซิงค์.
  7. เยี่ยมชมแพทย์ตาอย่างสม่ำเสมอ: การตรวจตาอย่างสม่ำเสมอช่วยในการตรวจจับและรักษาโรคตาในระยะเริ่มต้นที่มีโอกาสรักษาสำเร็จมากขึ้น

 

ผลไม้ที่มีสารอาหารที่สามารถช่วยเสริมสุขภาพตาได้แก่

  1. ส้ม: ส้มเป็นแหล่งวิตามิน C ที่มากมาย ช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อต่างๆ ในตา และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดตาสะบัด.
  2. แตงกวา: แตงกวาเป็นแหล่งวิตามิน A ที่สำคัญ ซึ่งช่วยในการสร้างและรักษาเซลล์สายตา และช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ในตา.
  3. แอปเปิ้ล: แอปเปิ้ลมีวิตามิน C และวิตามิน A ที่ช่วยในการเสริมสุขภาพตา และมีสารสกัดที่ช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตาสะบัด.
  4. กล้วย: กล้วยเป็นแหล่งวิตามิน A และวิตามิน C ที่ช่วยในการบำรุงสุขภาพตา และช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดตาสะบัด.
  5. มะละกอ: มะละกอเป็นแหล่งวิตามิน A และวิตามิน C ที่มีประโยชน์ต่อสายตา โดยเฉพาะในการลดความเสี่ยงของการเกิดตาสะบัดและต้อกระจก.
  6. เบอร์รี่: เบอร์รี่มีสารแอนทีออกซิแดนต์ที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อต่างๆ ในตา และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตาสะบัด.