วันนี้เราจะมาพูดถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองหากว่าเรานั้นมีอาการของการเป็นโรคภูมิแพ้เพราะถ้าหากว่าเราไม่ดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองอาการภูมิแพ้ที่มีอยู่ก็อาจจะกำเริบได้ซึ่งอาการภูมิแพ้นั้นไม่ได้หลายสาเหตุด้วยกันแต่วิธีการดูแลรักษาตนเองนั้นก็มีลักษณะคล้ายๆกันดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาดูวิธีการดูแลตัวเองเพื่อให้โรคภูมิแพ้นั้นไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ
อันดับแรกเลยสำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้นก็คือร่างกายอ่อนแอเพราะฉะนั้นเราควรที่จะมีการพักผ่อนให้เพียงพอเพราะว่าถึงแม้ว่าเราจะกินยารักษาอาการภูมิแพ้แต่ถ้าหากว่าร่างกายของเราอ่อนแอพักผ่อนน้อยก็จะทำให้โรคภูมิแพ้นั้นกลับมาเป็นอีกได้นั่นเองเพราะฉะนั้นสิ่งที่สามารถต้านทานโรคภูมิแพ้ได้ดีที่สุดนั่นก็คือการที่เราแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่ายดังนั้นคนที่มีร่างกายแข็งแรงส่วนใหญ่ก็จะต้องพักผ่อนให้ได้ตามที่ร่างกายต้องการซึ่งก็จะอยู่ที่ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวันนั้นเอง
เมื่อเราพักผ่อนเพียงพอแล้วอันดับต่อมาที่เราจะต้องทำนั่นก็คือเราควรที่จะออกกำลังกายให้สุขภาพร่างกายของเรานั้นแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพราะหากเรานอนอย่างเดียวอาจจะไม่ช่วยให้สุขภาพร่างกายของเรานั้นมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคได้มากนักดังนั้นตัวเสริมของการนอนหลับพักผ่อนแล้วก็คือการต้องออกกำลังกายนั่นเอง
อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายนั้นเราควรศึกษาข้อมูลโดยการออกกำลังกายให้ถูกต้องซึ่งการออกกำลังกายนั้นไม่จำเป็นต้องหักโหมมากจนเกินไปโดยประมาณแล้วสามารถออกกำลังกายวันละ 30 นาทีก็ได้
อย่างไรก็ตามนอกจากการที่เราต้องนอนและเราต้องออกกำลังกายแล้วอาหารการกินก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้เรามีอาการของการเป็นโรคภูมิแพ้น้อยลงเช่นเดียวกันเพราะเรื่องของอาหารการกินถ้าเรากินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราก็จะทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงและยังมีภูมิคุ้มกันออกมาต้านทานเชื้อโรคต่างๆได้อีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่เราจะกินเข้าไปนั้นควรจะเป็นอาหารที่มีพวกวิตามินเกลือแร่หรือแร่ธาตุต่างๆไม่ว่าจะเป็นโปรตีนผักรวมถึงผลไม้ซึ่งการกินอาหารที่ดีมีประโยชน์นั้นต้องกินให้ครบ 5 หมู่ด้วยกันและที่สำคัญนอกจากการกินผักและผลไม้แล้วการที่เราเป็นโรคภูมิแพ้ก็ควรที่จะไม่ไปอยู่ใกล้กับสิ่งที่เราแพ้ไม่ว่าจะเป็นพวกฝุ่นละอองต่างๆ
หรือสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้เช่นพวกน้ำหอมดังนั้นคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าตนเองนั้นมีภูมิแพ้อะไรบ้างซึ่งเราก็สามารถหลีกเลี่ยงตรงนั้นได้อย่างไรก็ตามการรักษาโรคอาการภูมิแพ้นั้นควรจะต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงคอยให้คำแนะนำด้วย
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์