วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกนั้นสำคัญไฉน

ในผู้หญิงถือได้ว่ามะเร็งปากมดลูกก็เป็นภัยร้ายอันดับสองที่รองลงมาจากมะเร็งเต้านม มีการทำการเฉลี่ยออกมาแล้วว่าในทุกๆวันจะมีผู้หญิงป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นจำนวนวันละ 24 ราย และมีผู้หญิงที่ต้องตายด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกจำนวนวันละ 14 ราย  ซึ่งมะเร็งปากมดลูกนั้นมีถึงสี่สายพันธุ์ด้วยกันวันนี้เราจึงอยากมาแนะนำให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเพื่อลดความเสี่ยง

การเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้น มีสาเหตุหลักจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus Infection)  ซึ่งไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะสามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้ ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้เหมือนกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเราควรหาวิธีป้องกัน เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก

วันนี้จึงอยากมาแนะนำผู้หญิงทุกคน ให้หันไปสนใจ ดูแลสุขภาพของตัวเอง โดยการไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกกัน ปัจจุบันนี้มีโรงพยาบาลรัฐและเอกชน รวมถึงคลินิกต่างๆที่ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว โดยการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกนั้นจะมี 2 แบบ 

  1. แบบที่ป้องกันเชื้อไวรัส 2 สายพันธุ์
  2. แบบที่ป้องกันเชื้อไวรัส 4 สายพันธุ์

ซึ่งในอนาคตอาจมีการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสได้ถึง 9 สายพันธุ์ วิธีการฉีดวัคซีนนั้นจะฉีดเข้าที่บริเวณกล้ามแขน ฉีดจำนวนทั้งหมด 3 เข็ม แต่แบ่งระยะเวลาในการฉีด โดยเข็มที่หนึ่ง ฉีดทันที , เข็มที่สอง ฉีดหลังจากเข็มที่หนึ่งไป 2 เดือน และเข็มที่สาม ฉีดหลังจากเข็มที่หนึ่งไป 6 เดือน ราคานั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานพยาบาล แต่ถือได้ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง เพราะราคา 1 เข็ม ตกเข็มละประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป แต่หากโรงพยาบาลไหนมีโปรเหมาจ่าย ราคาต่อเข็มก็จะถูกลง 

ผู้หญิงที่สมควรไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่สุดมีใครบ้าง

1.ผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ใดๆมาก่อน หากเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้วก็ฉีดได้ ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าหญิงนั้นได้รับการติดเชื้อไวรัส HPV มาหรือยัง 

2.ผู้หญิงที่อายุไม่เกิน 26 ปี ช่วงอายุที่หมดจะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมีตั้งแต่อายุ 12 – 26 ปี หากมีอายุเกิน 26 ปีแล้ว ก็สามารถไปฉีดได้ เพียงแต่ประสิทธิภาพจะลดลง

3.ผู้หญิงที่ได้รับเชื้อไวรัส HPV ก็อาจจะฉีดได้ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และลดการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดิมซ้ำได้อีกด้วย เพราะวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกนั้นไม่ได้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังลดความเสี่ยงโรคมะเร็งในช่องคลอด โรคมะเร็งปากช่องคลอด และโรคหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ อันเกิดจากเชื้อไวรัส HPV ได้อีกด้วย

ผู้หญิงที่ไม่สมควรฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

1.ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์

2.ผู้หญิงที่แพ้สารประกอบในวัคซีน

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณผู้หญิงทั้งหลายควรรีบไปฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกจะได้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก รวมถึงโรคอื่นๆที่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ด้วย แม้วัคซีนจะมีราคาสูง แต่เมื่อเทียบกับความสำคัญของสุขภาพแล้วก็คุ้มค่าน่าลงทุน เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราที่ไม่อาจหาซื้อที่ไหนได้ แต่ถึงแม้จะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้วก็อย่าเพิ่งวางใจไป

เพราะยังมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆอีก ดังนั้นจึงควรป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ควรมีคู่นอนเพียงคนเดียว ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และหมั่นตรวจสุขภาพ รวมถึงตรวจภายในทุกปี

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  หวยลาวออกกี่โมง