bookmark_borderเจไม่เจ กินเจอย่างไร ให้สุขภาพดี

เทศกาล “กินเจ” กำลังใกล้เข้ามาถึงในไม่ช้า การกินเจนั้นถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมความเชื่อของชาวจีนว่าการกินเจคือ การไม่ไปเบียดเบียนชีวิตของคนอื่น
ช่วยให้กายใจบริสุทธิ์และยังทำให้ได้รับบุญกุศลเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ การกินเจยังได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพซึ่งเชื่อว่าการกินเจจะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพดี

เนื่องจากเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ แต่อย่างไรก็ตามการกินเจในปัจจุบันเริ่มมีการนำเอาวัตถุดิบที่ผ่านการแปรรูปมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารมากขึ้นเพื่อเพิ่มรสชาติ บางแหล่งยังถูกจำลองกลิ่นและรสสัมผัสให้คล้ายอาหารที่ผ่านการปรุงจากเนื้อสัตว์

ซึ่งสารที่เติมเข้าไปล้วนมีส่วนผสมของสารเคมี สารกันบูดและบางผลิตภัณฑ์ยังมีการปนเปื้อนของเชื้อราอีกด้วย

การกินเจในปัจจุบันจึงไม่ใช่เรื่องของการดูแลสุขภาพเพียงอย่างเดียว เพราะหากไม่รู้จักระวังก็อาจจะกลายเป็นการให้โทษต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ อาหารเจยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตและไขมันเป็นหลัก

เมื่อรับประทานมากๆ ก็เสี่ยงที่จะทำให้มีภาวะน้ำหนักเกินและไขมันในเลือดสูงตามมาได้ ดังนั้น ก่อนเริ่มต้นกินเจเราควรพิจารณาเมนูอาหารให้เหมาะสมเพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจไปพร้อมๆ กันอย่างสมบูรณ์

กินเจ ระวัง! ขาดสารอาหาร
ผู้ที่กินเจในระยะยาวอาจจะทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารได้โดยเฉพาะโปรตีน แต่ในผู้ที่กินตามเทศกาลเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ มักจะไม่ค่อยมีปัญหาทางด้านสุขภาพ แต่ทางที่ดีก็ควรเลือกกินอาหารหลากหลายชนิด

โดยเฉพาะถั่วและธัญพืชต่างๆ ที่มีส่วนประกอบของโปรตีนคล้ายเนื้อสัตว์ กินผักและผลไม้ในมื้ออาหารเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มวิตามินและเกลือแร่ ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ

‘ถั่วเหลือง’
คือ หนึ่งในแหล่งโปรตีนชั้นเลิศที่ขาดไม่ได้ เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของอาหารเจที่มีคุณค่าของโปรตีนพอๆ กับเนื้อสัตว์หากได้รับในปริมาณที่เพียงพอ นอกจากนี้ ในบรรดาพืชผักอื่นๆ ยังมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรค ลดไขมันในเลือดและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้

ดังนั้น การกุญแจสำคัญของการกินเจคือต้องเลือกอาหารที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะกินในช่วงเทศกาลหรือกินในระยะยาวก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดสารอาหารตามมาได้

ข้อจำกัดในการกินเจ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ อาหารเจอาจจะไม่ค่อยได้รับคำแนะนำเท่าไรนัก เพราะอาจจะเข้าไปกระตุ้นให้โรคประจำตัวที่เป็นอยู่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอาหารประเภทนี้อุดมไปด้วยแป้งและน้ำตาลมาก ผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจและความดันควรหลีกเลี่ยงขนมที่ทำจากน้ำตาลในปริมาณสูง

ส่วนการกินเจให้ได้สุขภาพอย่างครบถ้วน ควรออกกำลังกายและเลือกกินอาหารอย่างพอเหมาะ ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใสและพักผ่อนร่างกายให้เพียงพอ

เท่านี้ก็จะช่วยให้การกินเจเป็นประสบการณ์ดีๆ สักครั้งในรอบปีที่เราจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำบุญได้อย่างมีความสุขค่ะ